ครบเครื่องเรื่องท่องเที่ยว
ครบเครื่องเรื่องท่องเที่ยว / 8 พิกัดพาไปมู...ที่พม่า สะสมแต้มบุญ เสริมความปังให้ชีวิต
8 พิกัดพาไปมู...ที่พม่า สะสมแต้มบุญ เสริมความปังให้ชีวิต

8 พิกัดพาไปมู...ที่พม่า สะสมแต้มบุญ เสริมความปังให้ชีวิต

ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้

·        สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แทบทุกแห่งในประเทศพม่านั้นบังคับให้ทุกคนที่เข้าไปเยี่ยมชมหรือสักการะบูชา ต้องถอดรองเท้าออกก่อนทุกครั้ง นักท่องเที่ยวจึงควรสวมใส่รองเท้าที่สามารถถอดเข้าออกได้ง่าย และควรพกถุงใส่รองเท้าติดตัวไว้ทุกเมื่อ เพื่อป้องกันไม่ให้รองเท้าสูญหาย สถานที่บางแห่งอาจมีจุดรับฝากรองเท้า หรือมีถุงใส่รองเท้าให้บริการ แต่ก็มีการคิดค่าบริการเพิ่มเติมเช่นกัน

·        แม้ว่าสถานที่ต่างๆในประเทศพม่าทั้งสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม และร้านอาหาร จะรับชำระเงินทั้งในสกุลจ๊าด และสกุลดอลล่าร์ แต่สำหรับการใช้จ่ายทั่วไป เช่นการขึ้นรถ หรือจ่ายค่าอาหาร การจ่ายเงินเป็นสกุลจ๊าดจะได้เรทที่ค่อนข้างดีกว่าการจ่ายเป็นสกุลดอลล่าร์

·        นอกจากนี้ การจ่ายเงินเป็นสกุลดอลล่าร์ในประเทศพม่า ยังต้องใช้ธนบัตรใหม่ที่ไม่มีรอยยับ หรือรอยพับเท่านั้น ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถแจ้งกับสถานที่แลกเงินในประเทศไทยได้ว่าต้องการธนบัตรฉบับใหม่เท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาและอุปสรรคเมื่อนำไปใช้ในประเทศพม่า และสำหรับการเดินทางขากลับ เนื่องจากสถานที่แลกเงินในประเทศไทยไม่นิยมรับแลกเงินพม่าเป็นเงินไทย นักท่องเที่ยวที่มีเงินจ๊าดเหลืออยู่ ควรแลกกลับเป็นสกุลดอลล่าร์หรือสกุลบาทที่สนามบินในพม่าก่อนเดินทางกลับ

การแต่งกาย

เสื้อผ้า ควรสวมชุดสวมใส่สบายระหว่างเดินทางท่องเที่ยว และควรเป็นชุดสุภาพ เสื้อมีแขน กางเกงขายาว หรือขาสามส่วน เนื่องจากศาสนสถานในพม่าทุกแห่ง ห้ามสวมกางเกงขาสั้นหรือกระโปรงสั้นเข้าไป สุภาพสตรีสวมกางเกงขายาวได้ บางแห่งจะมีบริการเช่าผ้าถุงหรือโสร่ง สวมทับกางเกงขาสั้นหรือกระโปรงสั้น รวมทั้งยังต้องถอดหมวก ถอดแว่นดำก่อนที่จะเข้าไปด้วย 

รองเท้า  ทุกท่านต้องถอดรองเท้าทุกชนิดก่อนเข้าเขตศาสนสถาน ตั้งแต่รั้วด้านนอก ถุงเท้า ถุงน่องก็ห้ามใส่เข้าไป ต้องเดินเท้าเปล่า และเป็นธรรมเนียมเคร่งครัดมากตั้งแต่สมัยโบราณ หากฝ่าฝืนชาวพม่าจะเข้ามาตักเตือนด้วยความไม่พอใจ แนะนำให้เตรียมรองเท้าแตะ เพื่อง่ายต่อการถอดและสวมใส่รองเท้า ควรเตรียมทิชชู่เปียกเอาไว้เช็ดเท้าทุกครั้งเวลาออกจากศาสนสถานตอนกลับมาถึงรถ เพราะวันนึงอาจเดินเท้าเปล่าหลายรอบ 


1.พระมหาเจดีย์ชเวดากอง

ที่แรกที่เราจะพาไปไหว้พระกัน แน่นอนว่าไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะที่นี่คือ เจดีย์ชเวดากอง ที่ตั้งอยู่เมืองหลวงเก่า ย่างกุ้ง ถือว่าเป็นสถานที่ไหว้พระที่เมียนมา ที่ขึ้นชื่อมากที่สุด และเป็นมหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดของเมียนมาอีกด้วย เราสามารถนำดอกไม้ธูปเทียนไปไหว้ เพื่อขอพร ณ ลานอธิษฐานเพื่อเสริมสร้างบารมีและสิริมงคล

ความเชื่อ ชาวเมียนมาส่วนใหญ่เชื่อกันว่า การกราบไหว้บูชาพระมหาเจดีย์ชเวดากองนั้น จะนำมาซึ่งบุญกุศลและเป็นหนทางสู่การพ้นทุกข์ โดยเฉพาะพระพุทธรูป 9 องค์ ที่ตั้งอยู่ภายในชเวดากอง เป็นสิ่งที่ชาวเมียนมายึดมั่นและศรัทธามานานแสนนาน
ที่ตั้ง:  ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาเชียงกุตระ เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า
วิธีเดินทาง: ส่วนมากจะใช้บริการเเท็กซี่ประมาณครั้งละ 1-2 US (1 Us ประมาณ 1,000 Kyats ถ้าเรียกแท็กซี่ 2 Us ก็ประมาณ 

ช่วงเวลาที่ดี: ช่วงเวลาเย็น พลบค่ำ เป็นช่วงพระอาทิตย์ตก เเสงที่กระทบกับเจดีย์จะเป็นเเสงที่สวยงามมาก

เวลาเปิด-ปิด: เปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่ 04.00 น. - 21.00 น.ทุกวัน

ค่าเข้าชม: ค่าเข้าชมคนละ 5 ดอลล่าร์ แล้วต้องติดสติกเกอร์สีประจำวันไว้ที่หน้าอกเพื่อแสดงไว้ว่าได้ชำระค่าเข้าชมแล้ว

วีซ่า: เที่ยวพม่าไม่เกิน 14 วัน ไม่ต้องขอวีซ่า

เพิ่มเติม:

ขั้นตอนการบูชามหาเจดีย์ชเวดากอง

1.ไหว้พระประธานที่วิหารโถงทิศใดทิศหนึ่ง โดยสวดมนต์ภาวนา หรือจุดธูปเทียนและถวายดอกไม้ด้วยก็ได้

2.ไหว้พระประจำวันเกิด จุดธูปเทียนถวายดอกไม้

3.สรงน้ำพระเท่าจำนวนอายุ (บวกหนึ่ง)

4.เดินประทักษิณ (วนขวา) ตั้งจิตอธิษฐาน ขอพรรอบเจดีย์หนึ่งรอบ

5.ร่วมบริจาคจตุปัจจัยเพื่อทำนุบำรุงองค์พระเจดีย์ ค้ำจุนพระศาสนา (ตามกำลังศรัทธา)

6.ตีระฆังที่ตั้งไว้รอบพระเจดีย์ (ใบใดใบหนึ่ง) ให้เทพยดาบนสรวงสวรรค์อนุโมทนารับส่วนบุญ (สาธุ)

ขอแนะนำในการเข้าชมมหาเจดีย์ชเวดากอง

1.ห้ามผู้ชายและผู้หญิงนุ่งกางเกงขาสั้น

2.ห้ามสวมถุงน่อง รองเท้าทุกชนิด (เพื่อเป็นการเคารพสถานที่)

3.การเที่ยวชมมหาเจดีย์ชเวดากอง ให้เดินวนทางขวามือ


2.พระธาตุอินทร์แขวน

อีกหนึ่งวัดที่ชาวพุทธไม่ควรพลาด เมื่อไปเยือนเมียนมา นั่นก็คือ พระธาตุอินทร์แขวน หรือ ไจ๊ทิโย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งมหัศจรรย์ของเมียนมา เพราะมีพระธาตุ เป็นพระเกตุแก้วจุฬามณีบนสรวงสวรรค์ อยู่บนก้อนหินที่วางหมิ่นอยู่บนหน้าผาอีกทีนึง ซึ่งเป็นพระธาตุประจำปีจอ คนที่เกิดปีจอควรไปสักการะสักครั้งหนึ่งในชีวิต 

ในตอนเช้ามืด ที่หน้าวัดมีของใส่บาตรชุดใหญ่ สามารถซื้อได้โดยจะมีร้านค้าจำหน่าย ราคาอาหารประมาณ 1,000–3,000 จ๊าต ดอกไม้ธูปเทียน ประมาณ 300–500 จ๊าต

ความเชื่อ ถ้าผู้ใดได้มานมัสการพระธาตุอินทร์แขวน นี้ครบ 3 ครั้ง ผู้นั้นจะมีแต่ความสุขความเจริญ พร้อมทั้งขอสิ่งใดก็จะได้สมดั่งปรารถนาทุกประการ ท่านสามารถนั่งสมาธิหรือสวดมนต์ได้ตลอดคืน แต่ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ก็สามารถทำได้โดย ครั้งที่ 1 ไปถึงก่อนพระอาทิตย์ตก, ครั้งที่ 2 ตอนค่ำ และครั้งที่ 3 ช่วงเช้าประมาณตี 5 เพื่อถวายข้าวพระพุทธ ซึ่งมีจำหน่ายบริเวณวัด

ลักษณะเด่น: มีลักษณะเป็นก้อนหินสีทองขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชันอย่างหมิ่นเหม่ เหมือนจะหล่นและท้าทายแรงดึงดูดของโลกโดยไม่ตกลงมาอย่างเหลือเชื่อ

ที่ตั้ง: พระธาตุอินทร์แขวน ตั้งอยู่ที่เมืองไจ้ก์โถ่ อำเภอสะเทิม เขตรัฐมอญของประเทศพม่า บนยอดเขา Paung Laung เหนือระดับ น้ำทะเล 3,615 ฟุต
วิธีเดินทาง: การเดินทางไปพระธาตุอินทร์แขวน

-พระธาตุอินทร์แขวน ห่างจากกรุงย่างกุ้งประมาณ 180 กิโลเมตร นั่งรถผ่านเมืองหงสาวดี สู่เมืองไจก์โท่ ใช้เวลา 4-5 ชั่วโมง

-จากนั้นนั่งรถบรรทุกหกล้อเดินทางขึ้นเขาที่มีความสูงชัน ระยะประมาณทาง 8 กิโลเมตร

-ใช้เวลาอีกครึ่งชั่วโมง ถึงจุดเดินเท้าหรือจุดที่นั่งเสลี่ยง ค่านั่งเสลี่ยง ประมาณ 700-800 บาท

ช่วงเวลาที่ดี: ไหว้ได้ตลอดทั้งปี แต่ในยามราตรี ที่มีแสงสีทองนวลตา เป็นความงดงามที่ยากเกินบรรยาย จึงมีนักท่องเที่ยวที่นิยมชมชอบการถ่ายภาพ เดินหามุมสวยๆ เลือกกดชัตเตอร์เก็บไว้เป็นที่ระลึก
เวลาเปิด-ปิด: เปิดให้ปิดทองได้ถึงเวลา 22.00 น.


3.วัดพระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี (พระนอนตาหวาน)

อีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเมียนมาร์ ที่ควรไปสักการะให้ได้ นั่นก็คือ วัดพระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี เป็นพระนอนองค์ใหญ่ที่มีความสวยงามในแบบศิลปะของเมียนมาร์ องค์หน้าจะมีลักษณะแตกต่างจากพระในไทยเรา ด้วยสีสันและดวงตาที่หวานงดงาม เป็นพระนอนที่สวยงามมาก จนทำให้นักท่องเที่ยวต่างพากันมาสักการะที่วัดนี้ พร้อมกับชื่นชมความสวยงามขององค์พระนอน

ความเชื่อ: เรื่องการไหว้ พระนอนตาหวานเป็นพุทธลักษณะมงคลให้คุณด้านการมีเสน่ห์ ไอเทมเด็ดสำหรับสายมูที่การงานต้องพบปะผู้คน , ค้าขาย หรืองานบันเทิง

ที่ตั้ง:  ตั้งอยู่ในอำเภอบะฮ่าน นครย่างกุ้ง ภาคย่างกุ้ง ประเทศพม่า
วิธีเดินทาง: ไปยังวัดพระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี

- รถแท็กซี่ เป็นวิธีการเดินทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของนักท่องเที่ยว ราคาเมื่อเดินทางด้วยรถแท็กซี่ไปยังสถานที่ต่างๆ ภายในเมืองย่างกุ้งจะอยู่ที่ประมาณ 2,500-4,500 จ๊าด (อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาพรถและระยะทาง)

- รถบัส เป็นอีกหนึ่งทางเลือกราคาประหยัดสำหรับการเดินทางในเมืองย่างกุ้ง และยังมีเส้นทางการให้บริการที่ค่อนข้างครอบคลุมทั่วทั้งเมือง โดยรถบัสสายต่างๆในเมืองย่างกุ้งมีค่าบริการเริ่มต้นที่ 200 จ๊าด ทั้งนี้นักท่องเที่ยวอาจสอบถามข้อมูลเส้นทางรถบัสแต่ละสายได้จากโรงแรมที่พีก หรือสอบถามกับคนขับรถโดยตรง นอกจากนี้ยังสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “Yangon Bus Service Official” เพื่อตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางด้วยรถบัสในย่างกุ้งได้อีกด้วย

ช่วงเวลาที่ดี: นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเยือนวัดพระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี ได้ตลอดทั้งปี
เวลาเปิด-ปิด: ตั้งแต่ 06.00 – 20.00 น.


4.วัดพระมหามัยมุนี

เมื่อไปมัณฑะเลย์แล้วไม่ควรพลาดที่จะไปเที่ยวชมวัดพระมหามัยมุนี ซึ่งเป็นสถานที่ประดิษฐานของพระมหามัยมุนี พระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามมากที่สุดอันดับต้น ๆ ของเมียนมา มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องกษัตริย์ องค์พระทำจากทองสัมฤทธิ์หนัก 6.5 ตัน สูง 3.82 เมตร โดยมีการปิดทองที่ตัวองค์พระซ้อนทับกันไปมาหลายหมื่นชั้น จนแลดูว่าเป็นพระพุทธรูปที่สมบูรณ์

ความเชื่อ: ใครที่ได้ปิดทององค์พระมหามุนี จะรู้สึกเหมือนได้สัมผัสเนื้อแท้ของท่านจริงๆ คนไทยเองก็เลยเรียกอีกชื่อหนึ่งของพระมหามุนีนี้ว่า พระพุทธรูปเนื้อนิ่ม

วิธีสักการะ: ร่วมพิธีล้างพระพักตร์ด้วยน้ำอบ น้ำหอมผสมทานาคา แปรงพระโอษฐ์ เช็ดด้วยผ้าที่สาธุชนถวายและใช้พัดทองโบกถวาย

นิยมขอพรเพื่อ: เสริมความเป็นสิริมงคล

ที่ตั้ง:  ตั้งอยู่วัดพระมหามัยมุนี ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์
วิธีเดินทาง: ไปยังวัดพระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี

- รถแท็กซี่ เป็นวิธีการเดินทางรูปแบบเดียวจากสนามบินมัณฑะเลย์เข้ามายังตัวเมือง โดยมีระยะทางประมาณ 37 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40-50 นาที อัตราค่าโดยสารมีสองรูปแบบคือ ราคา 4,000 จ๊าดต่อคน สำหรับการใช้บริการรถแท็กซี่แบบแชร์ร่วมกับผู้อื่น และราคา 12,000 จ๊าด สำหรับเหมาทั้งคันรถ โดยจะมีกลุ่มคนขับรถแท็กซี่ยืนรอให้บริการอยู่บริเวณประตูทางออกสนามบิน

ช่วงเวลาที่ดี: เนื่องจากประเทศพม่ามีสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อนตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงนิยมเดินทางไปในช่วงฤดูหนาว ระหว่างเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ ซึ่งถือเป็นช่วงไฮซีซั่นสำหรับการท่องเที่ยวประเทศพม่า ส่วนในฤดูอื่นๆนั้นก็ยังคงสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้ตามปกติ โดยในฤดูร้อนนั้นอาจต้องเตรียมรับมือกับสภาพอากาศที่ร้อนจัด แห้งแล้ง และฝุ่นควันจากพื้นที่โดยรอบเป็นพิเศษ ส่วนในฤดูฝนนั้นอาจต้องเตรียมรับมือกับสภาพฝนตกชุกและการเดินทางที่อาจมีอุปสรรคมากกว่าในช่วงเวลาปกติ
เวลาเปิด-ปิด:    วัดพระมหามัยมุนีเปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 04.00 – 20.00 น.

การซื้อบัตรเข้าชม: สถานที่สำคัญต่างๆในเมืองมัณฑะเลย์มีการจำหน่ายบัตรเข้าชมแบบรวม ซึ่งมีชื่อว่า Mandalay Archaeological Zone ticket ราคา USD 10 หรือ 10,000 จ๊าด สามารถใช้เข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวทุกแห่งในเมืองมัณฑะเลย์ สามารถหาซื้อได้ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่อยู่ภายในเมือง

5.เทพทันใจและเทพกระซิบ เจดีย์โบตาทาวน์

เจดีย์โบตาทาวน์ เป็นที่ประดิษฐานของเทพทันใจองค์ที่ห้า ชื่อท่านนัตโบโบยี และเทพกระซิบ มีความเชื่อว่า ถ้าพับเงินใส่ไว้ในมือของนัตโบโบยีมากกว่า 1 ฉบับ แล้วนำหน้าผากตัวเองไปสัมผัสกับนิ้วชี้ท่าน จะสามารถอฐิษฐานขอพรในสิ่งที่ตัวเองต้องการได้ โดยตั้งสมาธิอย่างแน่วแน่แค่หนึ่งข้อเท่านั้น และให้นำธนบัตรที่ใส่ไว้กลับคืนมา 1 ฉบับเพื่อเป็นเงินขวัญถุงโดยมีความเชื่อว่าสิ่งที่ขอไปจะสำเร็จดั่งที่ขอไว้

ความเชื่อ: เทพทันใจ หรือ นัตโบโบยี เชื่อกันว่าจะทำให้สมปรารถนารวดเร็วทันใจ สมกับคำว่า เทพทันใจ

ที่ตั้ง: ตั้งอยู่ในย่านใจกลางนครย่างกุ้ง ประเทศพม่า ใกล้แม่น้ำย่างกุ้ง

วิธีเดินทาง:  

-รถแท็กซี่ เป็นวิธีการเดินทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของนักท่องเที่ยว ราคาเมื่อเดินทางด้วยรถแท็กซี่จากจุดต่างๆภายในเมืองย่างกุ้งไปยังเจดีย์โบดาทาวน์ อยู่ที่ประมาณ 2,500-4,500 จ๊าด (อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาพรถและระยะทาง)

-รถบัส เป็นอีกหนึ่งทางเลือกราคาประหยัดสำหรับการเดินทางในเมืองย่างกุ้ง และยังมีเส้นทางการให้บริการที่ค่อนข้างครอบคลุมทั่วทั้งเมือง โดยรถบัสสายต่างๆในเมืองย่างกุ้งมีค่าบริการเริ่มต้นที่ 200 จ๊าด ทั้งนี้นักท่องเที่ยวอาจสอบถามข้อมูลเส้นทางรถบัสแต่ละสายได้จากโรงแรมที่พีก หรือสอบถามกับคนขับรถโดยตรง นอกจากนี้ยังสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “Yangon Bus Service Official” เพื่อตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางด้วยรถบัสในย่างกุ้งได้อีกด้วย
ช่วงเวลาที่ดี:   นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเยือนเจดีย์โบดาทาวน์ได้ตลอดทั้งปี

เวลาเปิด-ปิด: เจดีย์โบดาทาวน์ เปิดทำการทุกวัน 06.00 – 20.00 น.
ค่าเข้าชม: เจดีย์โบดาทาวน์มีค่าเข้าชม USD 5
เพิ่มเติม:

ขั้นตอนวิธีสักการะเทพทันใจวิธีสักการะเทพทันใจ

1.สักการะด้วย มะพร้าว กล้วย ใบชนะ ผ้าคล้องคอ ร่มฉัตรกระดาษ ดอกไม้ ซึ่งสิ่งของเหล่านี้เป็นสิ่งที่นิยมสักการะเทพทันใจ

2.นำธนบัตร 2 ใบ สอดเข้าไปในมือของเทพทันใจ และนำมาแตะหน้าผากพร้อมอธิฐาน แล้วดึงออกมา 1 ใบ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะให้ใบชนะมา จากนั้นนำผ้ามาคล้องคอเทพทันใจ

3.สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ แนะนำว่าขอให้อธิฐานเพียงข้อเดียวเท่านั้น จึงจะสำฤทธิ์ผล

วิธีขอพรจากเทพกระซิบ

การเคารพและบูชาเทพกระซิบ จะบูชาด้วยน้ำนม ข้าวตอก และผลไม้ และกระซิบเพื่อขอพรท่าน ซึ่งเมี๊ยยะนานหน่วยนั้นถือได้ว่าเป็นเทพที่ให้แต่พรและความโชคดีแก่ทุกๆคนที่มาขอพร


6.พระธาตุมุเตา หรือ เจดีย์ชเวมอดอว์

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองหงสาวดี เจดีย์ชเวมอดอร์ เป็นพระธาตุที่มีความสวยงาม เป็นศิลปะผสมผสานแบบมอญและพม่า มีอายุนานถึงพันปี ซึ่งเป็นพระธาตุ 1 ใน 5 ที่ชาวพม่าให้ความศรัทธาเป็นอย่างมาก

ในประเทศไทย มีเจดีย์จำลองของพระมหาธาตุเจดีย์ชเวมอดอ ที่วัดชมภูเวก และที่วัดปรมัยยิกาวาส บนเกาะเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นชุมชนของชาวไทยเชื้อสายมอญ

ความเชื่อ: เมื่อเรามีโอกาสได้ไปสักการะ เวลาขอพรให้เอามือและหน้าผากไปแตะที่พระธาตุองค์เดิมที่หัก แล้วอธิษฐาน หลายคนมักจะประสบผลสำเร็จ หรือ นมัสการ ยอดเจดีย์หัก ซึ่งชาวมอญและชาวพม่าเชื่อกันว่าเป็นจุดที่ศักดิ์สิทธิ์มาก สามารถนำธูปไปค้ำกับยอดของเจดีย์องค์ที่หักลงมาเพื่อเป็นสิริมงคลซึ่งเปรียบเหมือนดั่งค้ำจุนชีวิตให้เจริญรุ่งเรือง

ที่ตั้ง: พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาเชียงกุตระ เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า
วิธีเดินทาง: 

-รถแท็กซี่ เป็นวิธีการเดินทางที่สะดวกสบายและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ โดยอัตราการเหมารถแท็กซี่จากย่างกุ้งไปยังเมืองพะโค อยู่ที่ประมาณ USD 50-60 ต่อ ขึ้นอยู่กับสภาพรถและเงื่อนไขต่างๆ

-รถบัส เป็นอีกหนึ่งทางเลือกราคาประหยัด เนื่องจากมีรถบัสให้บริการจาก Saw Bwar Gyi Gone bus station ในเมืองย่างกุ้ง ไปยังเมืองพะโค ค่าโดยสารอยู่ที่ 2,000 จ๊าด ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที

ช่วงเวลาที่ดี: ช่วงเวลาเย็น พลบค่ำ เป็นช่วงพระอาทิตย์ตก เเสงที่กระทบกับเจดีย์จะเป็นเเสงที่สวยงามมาก
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่ 05.00 – 21.00 น.
ค่าเข้าชม: สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในเมืองพะโค มีการจำหน่ายบัตรเข้าชมรวมทุกแห่งที่ชื่อว่า “The Bago archeological zone” ราคาคนละ USD 10

 7.เจดีย์ไจ๊ปุ่น

พระพุทธรูปไจ้ปุ่น เป็นพระเจดีย์ที่มีพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ทั้ง 4 ด้านอายุกว่า 500 ปี หันพระพักตร์ไปยัง 4 ทิศ สร้างขึ้นโดย 4 สาวพี่น้องที่อุทิศตนแด่พุทธศาสนาจึงสร้างพระพุทธรูปเพื่อแทนตนเอง และได้สาบานไว้ว่าจะไม่ข้องแวะกับบุรุษเพศ ต่อมาน้องสาวคนสุดท้อง กลับพบรักกับชายหนุ่มและแต่งงานกัน จึงเกิดอาเพศฟ้าผ่าพระพุทธรูปที่แทนตัวของน้องสาวคนสุดท้องพังทลายลงมา และมีการบูรณะขึ้นมาใหม่จึงทำให้พระพุทธรูปองค์นี้จะมีลักษณะ แตกต่างจากองค์อื่นๆจากนั้นจึงได้มีการบูรณะพระพุทธรูปองค์ที่เสียหายนี้ขึ้นมาภายหลัง จนมีความสมบูรณ์อย่างที่ปรากฏในปัจจุบัน

ที่ตั้ง: เนินเขาเชียงกุตระ เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า
วิธีเดินทาง: 

-รถแท็กซี่ เป็นวิธีการเดินทางที่สะดวกสบายและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ โดยอัตราการเหมารถแท็กซี่จากย่างกุ้งไปยังเมืองพะโค อยู่ที่ประมาณ USD 50 - 60 ต่อ ขึ้นอยู่กับสภาพรถและเงื่อนไขต่างๆ

-รถบัส เป็นอีกหนึ่งทางเลือกราคาประหยัด เนื่องจากมีรถบัสให้บริการจาก Saw Bwar Gyi Gone bus station ในเมืองย่างกุ้ง ไปยังเมืองพะโค ค่าโดยสารอยู่ที่ 2,000 จ๊าด ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที

ช่วงเวลาที่ดี: นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเยือนเจดีย์ไจปุ่นได้ตลอดทั้งปี

เวลาเปิด-ปิด: เจดีย์ไจปุ่นเปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่ 05.00 – 21.00 น.
ค่าเข้าชม: สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในเมืองพะโค มีการจำหน่ายบัตรเข้าชมรวมทุกแห่งที่ชื่อว่า “The Bago archeological zone” ราคาคนละ USD 10


8.เจดีย์กลางน้ำพม่า: เจดีย์เยเลพญา

เจดีย์เยเลพญา หรือ เจดีย์กลางน้ำ ตั้งอยู่บนเกาะเล็ก ๆ กลางน้ำ การเดินทางจะต้องลงเรือไปอย่างเดียว ไม่มีสะพานให้รถหรือคนเดินข้ามไปได้ ตามตำนานเล่าว่า เจดีย์แห่งนี้สร้างในสมัยมอญเรืองอำนาจ เมื่อราวพันกว่าปีก่อน โดยมีคหบดีชาวมอญเป็นผู้สร้าง ตั้งจิตอธิษฐานไว้ 3 ข้อ คือ

1.ถ้าน้ำท่วม ก็อย่าให้ท่วมถึงองค์พระเจดีย์

2.ถ้ามีผู้คนมากราบไหว้บูชาเป็นจำนวนมากเพียงใด ขอให้พื้นที่ไม่มีวันเต็ม รองรับผู้คนจำนวนมากเท่าใดได้ตลอดเวลา

3.เมื่อมาอธิษฐานขออะไรที่สมเหตุสมผล ก็ขอให้ได้สมความปรารถนาทุกคน

ความเชื่อ: เป็นเจดีย์ยอดฮิตของพ่อค้าแม่ค้า และนักธุรกิจทั้งหลาย เพราะเชื่อกันนว่าหากใครได้มีโอกาสมาขอพรที่เจดีย์เยเลพญาแล้วจะทำให้การค้ารุ่งเรื่อง

ที่ตั้ง: อยู่ห่างจากเมืองย่างกุ้งไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 45 กิโลเมตร เป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ตรงจุดบรรจบของแม่น้ำพะโคและแม่น้ำย่างกุ้ง
วิธีเดินทาง: การเดินทางจะต้องลงเรือไปอย่างเดียว ไม่มีสะพานให้รถหรือคนเดินข้ามไปได้

ช่วงเวลาที่ดี: นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเยือนเจดีย์เยเลพญาได้ตลอดทั้งปี

เวลาเปิด-ปิด: เจดีย์เยเลพญาเปิดทำการทุกวัน
ค่าเข้าชม: 

-ค่าเข้า คนละ 2,000 จ๊าต

-ค่าเช่าเรือสำหรับนักท่องเที่ยว ราคาลำละ 5,000 จ๊าด